ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมตัว 2 คนร้ายชาวจีน ก่อเหตุ "ลักทรัพย์บนเครื่องบิน" ภายใต้การอำนวยสั่งการของ พ.ต.อ.มนพร ลิขิตมานนท์ ผกก.3 บก.ทท.1 ,พ.ต.ท.มานะ บุญสม รอง ผกก.3 บก.ทท.1 , พ.ต.ท.อภิรุ่ง เพียรมงคล รอง ผกก.3 บก.ทท.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เสกสันติ์ ฐิรเรืองรัตน์ สว.กก.3 บก.ทท.พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เก็บข้อมูล และเฝ้าติดตามพฤติกรรม กลุ่มบุคคลชาวจีนที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าจะก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์บนเครื่องบิน บนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่มีปลายทางมายังท่าอากาศยานสุววรรณภูมิ เวลา 10.30 น.วันที่ 10 เมษายน พ.ศ.2568 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบิน แอร์ มาเก๊า (AIR MACAU) เที่ยวบินที่ NX996 ว่ามีเหตุร่วมกันลักทรัพย์บนอากาศยานในเที่ยวบินลำดังกล่าว จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบคนจีน 2 คน ชื่อ MR.HAN อายุ 54 ปี สัญชาติจีน และ MR.WANG อายุ 46 ปี สัญชาติจีน ท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจสอบพบมีธนบัตรไทย จำนวน 80,000 บาทอยู่กับตัว ผู้เสียหายรายที่ 1 MR.TANG อายุ 45 ปี สัญชาติจีน(มาเก๊า) แจ้งว่าในขณะที่เครื่องกำลังจะถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่าธนบัตรไทย จำนวน 30,000 บาท หายไปจากกระเป๋าเป้ที่ใส่ไว้ที่ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะตน โดยมีผู้โดยสารชาวอเมริกันเป็นพยาน ให้การว่าเห็นคนจีนเข้าไปค้นกระเป๋าเป้ของผู้เสียหายรายที่ 1 จึงได้แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่สายการบินทราบ เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นว่าเจ้าหน้าที่เริ่มสงสัย จึงได้นำเงินธนบัตรไทย จำนวน 30,000 บาท ใส่ไว้ในถุงพลาสติก แล้วโยนทิ้งลงบนพื้นเครื่องบินและพยายามพูดกับเจ้าหน้าที่สายการบินว่าขอไม่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาผู้เสียหายรายที่ 2 MISS DING อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ได้มาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าตนได้เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าวเช่นกัน และ เมื่อเดินทางไปถึงโรมแรมที่พักพบว่ากระเป๋ามีร่องรอยถูกเปิดค้น โดยทรัพย์สินในกระเป๋าเป็นธนบัตรไทย จำนวน 50,000 บาท ได้หายไป จึงรีบเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เนื่องจากก่อนที่จะลงจากเครื่องบินพบว่ามีการแจ้งว่า เกิดเหตุลักทรัพย์บนเที่ยวบินดังกล่าว จากการสอบถาม MISS DING ยืนยันว่า หนึ่งในสองของผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ข้างกับตนบนเครื่องบินลำดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นตัวและสัมภาระโดยละเอียด จนกระทั้งพบเงินสดของกลาง 50,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ในตัวของผู้ก่อเหตุจริง ในชั้นจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งสองคนยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จากการตรวจสอบประวัติบุคคลของผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย พบว่าอยู่ในรายชื่อของกลุ่มบุคคลที่มี พฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุลักทรัพย์บนเครื่องบิน อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังที่ต้องติดตามพฤติกรรม ที่ทางชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้นำตัวผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย มาดำเนินคดีโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า "ร่วมกันลักทรัพย์ในอากาศยาน " และได้ทำการสอบปากคำพยานบนเครื่องบินดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่จะนำทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมทั้งหมด ส่งคืนให้นักท่องเที่ยวผู้เสียหายในขั้นต่อไป จากนโยบายกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ที่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในทุกมิติให้กับนักท่องเที่ยว โดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย ตำรวจท่องเที่ยวเปรียบเสมือนเพื่อนคนแรก เมื่อนักท่องเที่ยวก้าวเท้ามาถึงประเทศไทย ให้ท่องเที่ยวด้วยความความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินจนกระทั่งเดินทางกลับ ตามคติพจน์ของตำรวจท่องเที่ยว “ Your First Friend ” # ตำรวจท่องเที่ยว เปรียบเสมือนหนึ่งญาติมิตรในต่างแดน ซึ่งจะช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว พร้อมทั้งจะคอยช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา ฝากถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เชื่อมั่นว่าทุกสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย ตำรวจท่องเที่ยวจะอยู่เคียงข้างนักท่องเที่ยว และสร้างความอบอุ่นใจ ดูแลความปลอดภัย อย่างยั่งยืนสืบไป ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน และนักท่องเที่ยวหากพบเห็นผู้กระทำความผิด สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 หรือ แอปพลิเคชั่น THAILAND TOURIST POLICE และที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ทันที # ตำรวจท่องเที่ยวยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง



