ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1 บก.ปอท. เดินหน้าทวงทรัพย์คืนแผ่นดินเพิ่มอีก 300 ล้านบาท พร้อมขยายผลทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวบเพิ่ม4 ผู้ต้องหา (1 ในนั้นคือสามีกีกี้ แม็กซิม)”

09.00 น.29 พ.ย.66 .
“ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1 บก.ปอท. เดินหน้าทวงทรัพย์คืนแผ่นดินเพิ่มอีก 300 ล้านบาท พร้อมขยายผลทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวบเพิ่ม4 ผู้ต้องหา (1 ในนั้นคือสามีกีกี้ แม็กซิม)”

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายยานรก แจ็ค สามหมอ”
รวบยกแก๊ง ยึดทรัพย์ กว่า 20 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ,พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. , พ.ต.อ.เอนก  
เตาสุภาพ รรท.ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., 
พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.อ.ศรายุทธ  จันต๊ะวงศ์  ผกก.2 บก.ป. พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผกก.สสน.บก.ป. , พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย  พ.ต.ท.กันตเมศฐ์  อัครโชควรานนท์ และพ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.
ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 โดย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์  เฉลิมศรี  ผบช.ภ.9,
พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา , พ.ต.ท.อานนท์  ประดิษฐ์แสง รอง ผกก.(สอบสวน) หน.ชปส.ยะลา
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. , กก.6 บก.ป., กก.สสน.บก.ป., ร่วมกับ 
กก.สส.ภ.จว.ยะลา  และ ปปส.ภ.1
 
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา ตามหมายจับ  จำนวน 8 ราย
1.นายเจริญ ฯ หรือ แจ็ค สามหมอ  อายุ 32 ปี
2.นายวีรภัทร ฯ อายุ 29  ปี    
3.นายวิศิษฎ์ ฯ หรือ เดีย อายุ 33  ปี  
4.นายศิววงศ์ฯ  หรือ อ้น อายุ  30 ปี  
5.นายสมเกียรติ ฯ อายุ 35 ปี  
6.นายธนารัชต์ ฯ อายุ 37  ปี  
7.น.ส.เอ (นามสมมติ) เยาวชน อายุ 16  ปี  
8.นายบี (นามสมมติ) เยาวชน อายุ 16  ปี  

      ในความผิดฐาน สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด ในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด  อันเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ และร่วมกันสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการะทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบ
 
          พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวน  9 รายการ
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า) จำนวน 80,000 เม็ด
2.อาวุธปืน 9 กระบอก ได้แก่ อาวุธปืนสั้น 5  กระบอก , อาวุธปืนลูกซองยาว  2 กระบอก ,อาวุธปืนยาว ขนาด .22  1 กระบอก , อาวุธปืนกลมือ (อาวุธปืนสงคราม) 1 กระบอก 
3 .เครื่องกระสุนปืน ลูกซอง 24 นัด ขนาด 38 ซุปเปอร์ 100 นัด  ขนาด .22  100 นัด ขนาด 45 5 นัด ขนาด 9 มม. 15 นัด รวมทั้งสิ้น 262นัด  
          4. โทรศัพท์ 12 เครื่อง
          5. สมุดบัญชี 14 เล่ม
          6.บัตร atm 2 ใบ
          7.Server กล้องวงจรปิด สีดำ 1 เครื่อง
          8.โน๊ตบุค ยี่ห้อ Lenovo สีดำ 1 เครื่อง
          9.หนังสือเดินทาง 1 เล่ม

ตรวจยึด -อายัดทรัพย์สิน ไว้ทำการตรวจสอบ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด จำนวน 4 รายการ
  1. อพาร์ทเมนต์ จำนวน 1 อาคาร
  2. อู่ซ่อมรถ โชคเจริญทรัพย์สิน พร้อมอุปกรณ์ซ่อมรถ  จำนวน 1 แห่ง
  3. รถยนต์ จำนวน 27 คัน
  4. รถจักรยานยนต์ 3 คัน  
 
รวมมูลค่าของกลางและทรัพย์สินเกือบ 20 ล้านบาท
 
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.6 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม                  นายวาฮาบี ฯ และ นายสุไลมานฯ ผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน ทั้งสิ้น 32,032 เม็ด ,อาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก อาวุธปืนคาร์บิน (อาวุธปืนสงคราม) จำนวน 1 กระบอก ซึ่งจากการซักถามขณะนั้น ผู้ต้องหาให้การว่า ยาเสพติดได้สั่งซื้อมาจากนายเจริญ ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) จึงทำการสืบสวน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายเจริญฯ หรือฉายา แจ็ค สามหมอ อยู่ในระดับสั่งการ และถือเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ที่ลักลอบนำยาเสพติดส่งต่อไปยังลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้ยังขยายผลไปยังเครือข่ายของนายเจริญ ฯ พบว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ดังนี้
 
  กลุ่มที่ 1 นายเจริญ ฯ  หรือ แจ็ค สามหมอ เป็นหัวหน้าระดับผู้สั่งการและเป็นเจ้าของยาบ้าของกลาง โดยมีผู้สนับสนุนเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินค่ายาเสพติดและโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงจัดส่งยาเสพติดซุกซ่อนในกล่องพัสดุส่งผ่านบริษัทขนส่ง ประกอบด้วย           นายวิศิษฎ์ ฯ, นายสมเกียรติ ฯ, นายธนารัชต์ ฯ, นายวีรภัทร ฯ, นายศิววงศ์ ฯ, นายบี ฯ (เยาวชน) และ        น.ส.เอ (เยาวชน) ฯ
กลุ่มที่ 2 นายพงษ์ศิริ ฯ (ผู้ต้องหาถูกจับไปแล้วก่อนหน้านี้ ) ทำหน้าที่รับพัสดุซึ่งมียาบ้าซุกซ่อนอยู่และส่งพัสดุต่อให้กลุ่มลูกค้า ตามคำสั่งของนายเจริญฯ
กลุ่มที่ 3 นายวาฮาบี ฯ (ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้) เป็นผู้ค้ายาบ้าในพื้นที่ จ.ยะลา และเป็นผู้ติดต่อสั่งซื้อยาบ้าจากนายเจริญฯ, โดยมีทีมงานทำหน้าที่ไปรับยาบ้าที่จุดนัดหมาย ก่อนที่นายสุไลมาน ฯ (ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปแล้ว) จะมีหน้าที่นำยาบ้าไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้า
จากการสืบสวน เฝ้าติดตามมาตลอด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.6 บก.ป. สืบทราบว่า นายเจริญฯ หรือ แจ็ค สามหมอ กับพวกนั้น ปัจจุบันได้ย้ายมาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี โดยประกอบธุรกิจอพาร์ทเมนต์, อู่แต่งรถซิ่ง และคาเฟ่กัญชาบังหน้า เลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ และเพื่อใช้เป็นสถานที่พักแรมของกลุ่มเครือข่าย โดยเงินที่นำไปลงทุนประกอบธุรกิจนั้น ก็เป็นเงินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด นอกจากนี้ยังได้ซื้อรถยนต์ที่ผิดกฎหมาย แล้วนำมาสวมซาก จากนั้นก็ขายต่อให้กับลูกค้าโดยทั่วไป รวมถึงยังพบว่ามีการเช่าห้องพักคอนโดแห่งหนึ่งบริเวณใกล้เคียงไว้เป็นสถานที่หลบซ่อน หรือที่เก็บสต็อกยาเสพติดเพื่อรอจำหน่ายหรือส่งต่อให้ลูกค้าอีกทอดหนึ่ง โดยมีการกระทำในลักษณะนี้มานานหลายปี  จนกลุ่มเครือข่ายนี้มีทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด และกระทำความผิดทุกรูปแบบในจำนวนมาก ซึ่งชื่อของผู้ครอบครองทรัพย์สินต่างๆก็เป็นชื่อของบุคคลใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.6 บก.ป. ร่วมกับ ชุดขยายผลยาเสพติด ภ.จว.ยะลา    ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับและหมายค้น จนนำมาสู่การสนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ภ.9 และ ปปส.ภ.1 เปิดปฏิบัติ“ทลายเครือข่ายยานรก “ แจ็ค สามหมอ ” ปิดล้อม ตรวจค้น 7 จุด ในพื้นที่จ.ปทุมธานี จำนวน 6 จุด และ จ.ยะลา จำนวน 1 จุด พร้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 8 ราย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
จากปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมตัวนายเจริญ ฯ พร้อมกับพวก รวม 8 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา พร้อมตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ) จำนวน 70,000 เม็ด  อาวุธปืน  และทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด รวมถึงเงินในสมุดบัญชีของลูกค้ายาเสพติด รวมมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท
       ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือน ผู้ใดเข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดไม่ว่าทางใด ถือเป็นการกระทำความผิด และมีอัตราโทษสูง
 
อัตราโทษ
1 จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท
  2 สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินห้าแสนบาท, ในกรณีที่การกระทำมีลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษสองเท่าของโทษ
 3 ความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ
 
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์  บุญทอง สว.กก.6 บก.ป.สว.กก.6 บก.ป. โทรศัพท์ 088 8685167




You May Also Like