“บิ๊กจวบ” ประชุมหารือวางแนวทางขับเคลื่อนศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพล ลุยล้างบางทั่วประเทศ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายรายสำคัญ และพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ ฯ พร้อมด้วยคณะทำงานอีก 50 ราย เดินทางเข้าร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการและแผนปฏิบัติการให้เกิดรูปธรรมในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล พล.ต.อ.ประจวบ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เดินทางเข้าประชุม เพื่อหารือถึงมาตรการและการวางแผนในการปฏิบัติงานของศูนย์ฯ โดยมุ่งเน้น 17 มูลฐานความผิด อาทิ ยาเสพติด การพนัน การฮั้วประมูล หนี้นอกระบบ ค้ามนุษย์ และความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน โดยจะมีการเน้นย้ำในเรื่องใช้อาวุธปืนก่อเหตุเป็นกรณีพิเศษ โดยที่ผ่านมาเรามีกรณีตัวอย่างเหตุการณ์ที่มีผู้มีอิทธิพลไปเอี่ยว อาทิ คดีกำนันนก และกราดยิง สจ.โต้ง ในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี ทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพลอย่างจริงจัง ศูนย์นี้จึงถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อคอยสนับสนุนเรื่องระบบและความพร้อมในการทำงานให้ทุกพื้นที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเฝ้าระวังในทุกพื้นที่ โดยการทำงานจะมี 2 แนวทางหลัก คือ 1.การตรวจสอบบุคคลที่มีหมายจับตามความผิด 17 มูลฐาน และ 2.ผู้ที่มีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ 17 มูลฐานความผิด ซึ่งอาจจะยังไม่ได้ถูกออกหมายจับหรือถูกดำเนินคดี แต่ทางประชาชนในพื้นที่รับทราบว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้มีอิทธิพลมีเครือข่ายที่น่าเกรงกลัว ซึ่งในหน่วยงานของพื้นที่ต่างๆ จะตรวจสอบและเสนอบัญชีรายชื่อขึ้นมา เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ยืนยันว่าในการปราบปรามเรื่องนี้ ตำรวจไม่กังวลต่อผู้มีอิทธิพลใดๆทั้งสิ้น ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน อีกทั้งอาชญากรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นจากผู้มีอิทธิพลมักมีเจ้าหน้าที่ของรัฐไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดก็ตาม หากพบว่าไปช่วยเหลือให้กับผู้ที่กระทำความผิด จะต้องมีการจัดการโดยเด็ดขาด ทั้งนี้อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งศูนย์นี้ขึ้นมา จะมีการทำงานเป็นระบบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหากประชาชนที่ต้องการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบนั้น ก็สามารถแจ้งเบาะแสได้โดยไม่ต้องระบุชื่อของผู้แจ้งเพื่อความปลอดภัย พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวทิ้งท้ายว่า ใครที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว ขอให้ลด ละ เลิก เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปราบปรามอย่างจริงจังทั่วประเทศ.


