ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมด้วย ทุกภาคส่วน ร่วมบูรณาการสนธิกำลังตรวจตราปราบปรามเรือเจ็ตสกีที่ไม่ถูกต้อง ในพื้นที่ อำเภอถลางพบ เรือบรรทุกผู้โดยสาร ใบอนุญาตขาดอายุ จำนวน 1 ลำ จึงดำเนินการปรับสูงสุด 10,000 บาท และอำเภอเมืองภูเก็ต พบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาตใช้เรือจำนวน 25 ลำ จึงได้แจ้งข้อหาความผิดกับผู้ประกอบการเรือเปรียบเทียบปรับ รวม250,000 บาท

ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมด้วย ทุกภาคส่วน ร่วมบูรณาการสนธิกำลังตรวจตราปราบปรามเรือเจ็ตสกีที่ไม่ถูกต้อง ในพื้นที่ อำเภอถลางพบ เรือบรรทุกผู้โดยสาร ใบอนุญาตขาดอายุ จำนวน 1 ลำ จึงดำเนินการปรับสูงสุด 10,000 บาท และอำเภอเมืองภูเก็ต พบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาต ใช้เรือจำนวน 25 ลำ จึงได้แจ้งข้อหาความผิดกับผู้ประกอบการเรือเปรียบเทียบปรับ รวม250,000 บาท วันนี้(10 ธันวาคม 67) นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ดร.สมคิด ช่อคง ที่ นายพรพิสุทธิ์ ลิ่มดำรงค์กุล ที่ปรึกษากองร้อยจังหวัดภูเก็ต,นายจิระเดช บุรารักษ์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต พร้อมกำลัง จนท.กองอาสารักษาดินแดน,เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ชุดที่ 1 โดยมีนายสมศักดิ์ นิลตีบ ตำแหน่ง นักวิชาการขนส่งชำนาญการ เป็นหัวหน้าชุด,กำลังพลกองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจ ตำรวจน้ำภูเก็ต และฝ่ายปกครองอำเภอถลาง ร่วมบูรณาการสนธิกำลังออกตรวจตราปราบปราม บริเวณเชิงสะพานท่าเทียบเรืออ่าวปอ และท่าเทียบเรือยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะออกตรวจตราปราบปรามผู้ฝ่าฝืนตามนโยบายจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ผลการตรวจตรา พบเรือบรรทุกผู้โดยสาร ใบอนุญาตขาดอายุ จำนวน 1 ลำ จึงดำเนินการปรับสูงสุด 10,000 บาท พร้อมตักเตือนให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และช่วงบ่ายได้ลงพื้นที่ ณ ท่าเรือเอเอ เกาะสิเหร่ ตำบลรัษฎา พบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาต ใช้เรือจำนวน 25 ลำ จึงได้แจ้งข้อหาความผิดกับผู้ประกอบการเรือเปรียบเทียบปรับ เป็นความผิดตามมาตรา 9 พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 60 (ฉบับ 14) พ.ศ.2535 มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และได้ทำการเปรียบเทียบปรับลำละ 10,000 บาท รวม 250,000 บาท พร้อมทั้งแจ้งกำชับให้ผู้ประกอบการห้ามใช้เจ็ตสกีออกบริการนักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาดจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของการตรวจเรือเจ็ตสกีในครั้งนี้เป็นการปูพรมเพื่อตรวจสอบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาตใช้เรือ และกระทำผิดกฎหมายฝ่าฝืน ออกมาให้บริการนอกเขตโซนนิ่งโดยหากพบการกระผิด เจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อหาความผิดกับผู้ประกอบการเรือโดยเปรียบเทียบปรับทั้งนี้การใช้เรือโดยไม่มีใบอนุญาตการใช้เรือ เป็นความผิดตามมาตรา 9 พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 60 (ฉบับ 14) พ.ศ.2535 มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท โอกาสนี้จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้ามเอาเรือเจ็ตสกีออกบริการนักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาดจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป




You May Also Like