บก.ปคบ.ติดตามผู้ต้องหาคดีสำคัญหนีคดีเกือบ 10 ปี สุดท้ายจนมุม

บก.ปคบ.
ติดตามผู้ต้องหาคดีสำคัญหนีคดีเกือบ 10 ปี สุดท้ายจนมุม

6 กุมภาพันธ์ 2567
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.
,พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ
รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ
รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ชวินโรจน์ ภีมรัชตธำรงค์ ผกก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ปคบ.
,พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ. สั่งการให้ พ.ต.ท.สุรสีห์ คงทัพ สว.กก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ต. กรเอก
บริรักษ์กุล สว.กก.2 บก.ปคบ.,ร.ต.ท.สมควร สภาเอี่ยมจิตร รอง สว.กก.2 บก.ปคบ.,ด.ต.อาคม แพรกม่วง,จ.ส.ต.ธนภัทร
เศวตรัตน์, จ.ส.ต.พิพัฒน์พงศ์ พึ่งเพ็ง , ส.ต.อ.ปณต เชื้อหมอ , ส.ต.อ.ธวัข บุตรสาร ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปคบ.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. 2 บก.ปคบ. นำโดย พ.ต.ท.สุรสีห์ คงทัพ สว.กก.2 บก.ปคบ.,พ.ต.ต.กรเอก บริรักษ์กุล
สว.กก.2 บก.ปคบ. พร้อมกำลัง ชป.1 และ ชป.3 กก.2 บก.ปคบ.
พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 6 ก.พ.2567 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 ปคบ. ได้ร่วมกัน
จับกุมตัว นายอภิชาติ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ซึ่งต้องหาคดี “ปลอมเอกสารและใช้เอกสาร
ปลอม, ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม” หลังจากที่หลบหนีคดีมากว่า 9 ปี 11 เดือน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 ปคบ. ได้ใช้เวลากว่า 2 เดือนดำเนินการสืบสวนติดตามและขยายผลคดีฉ้อโกง ปลอมและ
ใช้ตั๋วเงินปลอมฯลฯ ที่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 270 ล้านบาท โดยพบว่าคดีก่อนหน้า ปี พ.ศ.2562 นายอภิชาติ (สงวน
นามสกุล) กับพวกได้ร่วมกันฉ้อโกงแอบอ้างตนว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ในแวดวงสังคมและนายทหารระดับสูง แสดงตัวเป็นนายหน้าติดต่อซื้อขายที่ดินกับผู้เสียหาย ต่อมาวันที่ 23 ม.ค.2563 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จับกุมดำเนินคดี
ซึ่งคดีความยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล แต่พบว่าผู้ต้องหายังคงหลอกลวงและใช้กลอุบายแผนประทุษกรรมเดิมๆ หลอกผู้เสียหายในคดีอื่นๆ อีก โดยมีผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สน.นางเลิ้ง ในคดี “ปลอมเอกสารและใช้เอกสาร
ปลอม, ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม” ตุ๋นเงินกลุ่มผู้เสียหายไปกว่า 22 ล้านบาท
สืบสวนความเชื่อมโยงระหว่าง 2 คดีพบว่า ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันนำโฉนดที่ดินที่ปลอมขึ้น ตีราคาประเมิน
หลัก 30 ล้านบาท ให้กลุ่มผู้เสียหายร่วมลงทุนซื้อที่ โดยอ้างว่าที่ดินดังกล่าวติดภาระไถ่ถอน จำเป็นต้องรวบรวมเงินไถ่ถอน
ที่ดินก่อน เมื่อขายที่ดินดังกล่าวได้กำไร กลุ่มผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนสูง เมื่อกลุ่มผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาและผู้ที่อาจเกี่ยวข้อง ผู้ต้องหาได้พยายามเจรจาไกล่เกลี่ย และได้หลอกลวงนำโฉนดที่ดินที่ฉ้อโกงผู้เสียหายในคดี 270 ล้านบาทมาชำระหนี้แทน และยังออกเช็คเด้งกว่า 10 ฉบับให้แก่ผู้เสียหาย โดยหวังว่า
ผู้เสียหายจะไม่เอาความดำเนินคดีกับตน และหนีคดีความผิด
จนกระทั่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ขอศาลอาญาออกหมายจับในคดีนี้ โดยผู้ต้องหาได้หลบหนีคดีจนคดีจะขาดอายุความ 10 ปี ในวันที่ 1 มี.ค.67 ที่จะถึงนี้ สุดท้ายจนมุมถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
เจ้าพนักงานชุดจับกุมดังกล่าวจึงได้นำตัวนายอภิชาติ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง
เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมายต่อไป




You May Also Like