”อี้แทนคุณ“พา ผสห.ร้อง ปอศ.อ้างถูกบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามแบรนด์ดังหลอกลงทุนลักษณะแชร์ลูกโซ่

”อี้แทนคุณ“พา ผสห.ร้อง ปอศ.อ้างถูกบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามแบรนด์ดังหลอกลงทุนลักษณะแชร์ลูกโซ่

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ต.ค.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ และทีมงาน พา ผสห.ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม เข้าพบ พงส.บก.ปอศ. ร้องให้ตรวจสอบเอาผิดบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามในรูปแบบตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ออนไลน์ชื่อดัง ที่ทำการตลาดลักษณะระดมทุน ประกาศตัวยอดขาย 6 ปี กว่าพันล้าน มียอดขายสินค้าหลายล้านชิ้น
บริษัทฯ ดังกล่าวรับเงินเกินจำนวนสินค้าที่พร้อมส่ง ยังไม่ทำการตลาดสินค้า แต่เปิดให้ตัวแทนโอนเงินจอง หลอกล่อตัวแทนด้วยทริปท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้างานอีเวนท์ใกล้ชิดพรีเซนเตอร์ รถหรู และของแบรนด์เนม และมีงานหลอกล่อทุกไตรมาส หลอกล่อด้วยความสำเร็จและชีวิตที่ดีขึ้น ตัวแทนหลายรายกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนหวังประสบความสำเร็จ มีตัวแทนสั่งสินค้าตั้งแต่หลักร้อยชิ้นถึงหลักแสนชิ้น เป็นจำนวนเงินหลักแสนถึงหลักล้านบาท รวม ๆแล้วแต่ละล็อตการเปิดจองของบริษัทฯ ทะลุหลายสิบล้านบาท และอาจแตะร้อยล้านบาทในบางครา
แต่บริษัทฯ อนุญาตให้เบิกสินค้าออกจากโกดังได้แค่ 10 ชิ้นต่อเดือน สินค้าจริงในโกดังมีไม่เท่าจำนวนที่ตัวแทนสั่งซื้อไป อ้างเป็นการช่วยตัวแทนบริหารสต็อค ตัวแทนเบิกสินค้าออกมาทั้งหมดไม่ได้
บางรายโดนล็อครหัสเว็ปไซต์ถึงขั้นไม่มีของขายทั้งที่ลงทุนไปหลักหลายล้านบาท บริษัทฯ อ้างว่าผิดกฎ และอ้างอีกว่าตัวแทนไม่ต้องเก็บของไว้ที่บ้าน ลูกค้าจะได้สินค้าใหม่ และ “สินค้าไม่มีวันหมดอายุ”
สุดท้ายปี 2566 ประกาศเปลี่ยนระบบ ตัวแทนเครียดหนักกว่าครึ่งหนึ่งของแบรนด์ เพราะเงินจม พยายามขายสุดชีวิตแต่สินค้าไม่เป็นที่รู้จัก ขายยาก แบรนด์ทำการตลาดสินค้าน้อยมาก เน้นแต่ภาพลักษณ์ระดับ Global สุดท้ายตัวแทนเสียใจหนักมากเหมือนโดนหักอก บริษัทฯ ออกเอกสารให้ตัวแทนเซ็นต์สัญญาฝากสต็อคสินค้าไว้ที่บริษัทฯ อย่างเป็นทางการ แต่ “หากว่าสินค้าหมดอายุหลัง 2 ปีบริษัทฯ จะทำลายสินค้าทิ้งทั้งหมด” เหมือนทำลายเงินที่ตัวแทนลงทุนไปทิ้งสูญเปล่า ตัวแทนส่วนใหญ่เซ็นต์สัญญาเอาสินค้าเข้าระบบใหม่เพราะไม่มีทางเลือก โดนบริษัทฯ หักเปอร์เซ็นต์ จนขาดทุนก็ต้องอดทนยอม ส่วนตัวแทนที่ไม่เซ็นต์สัญญารอสินค้ามาส่งเป็นเดือน

ปัจจุบันมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ยังไม่รวมผู้ที่สต็อคสินค้าค้างสต็อคแต่ยังไม่ได้มาแจ้ง ขณะนี้กลุ่มบริษัทฯ ดังกล่าวยังคงเดินหน้าปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และพยายามกลบเกลื่อนในความผิดที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่ากลุ่ม ผสห.ได้ทยอยมาแจ้งความก่อนหน้านี้เมื่อสองสัปดาห์แล้ว จะนัดรวมตัวกันมาโดยมีนายแทนคุณ เป็นผู้รวบรวมผู้เสียหายมาแจ้งความในวันนี้




You May Also Like