ตำรวจทางหลวงอยุธยาตามคนขับพ่วงหัวร้อน คลิปดังในโชเชียล ‘18 ล้อ’ ขับปาดหวาดเสียว ตบหมดไม่สนคันเล็ก-ใหญ่ รถตู้โดนลูกหลง เกือบตกข้างทาง บนถนนมิตรภาพมุ่งหน้าวังน้อย มาแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าตัวรับสารภาพ ยอมรับใจร้อน สำนึกผิด ขอโทษสังคม

ตำรวจทางหลวงอยุธยาตามคนขับพ่วงหัวร้อน คลิปดังในโชเชียล ‘18 ล้อ’ ขับปาดหวาดเสียว ตบหมดไม่สนคันเล็ก-ใหญ่ รถตู้โดนลูกหลง เกือบตกข้างทาง บนถนนมิตรภาพมุ่งหน้าวังน้อย มาแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าตัวรับสารภาพ ยอมรับใจร้อน สำนึกผิด ขอโทษสังคม 


    จากกรณีคลิปวิดีโอรถบรรทุกพ่วงขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตามที่ปรากฏในสื่อและโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 27มี.ค.67 มีข้อความว่า “อยากฝากให้รถบรรทุกรถพ่วงขับรถใจเย็นๆ กันได้ไหมคะจ่า ไม่รู้ว่าเค้ามีเรื่องอะไรกับกะบะกันมาก่อน แต่ใจคอจะเอาให้ลงข้างทางกันเลยหรอคะ รถตู้พลอยซวยไปด้วยเลย อันตรายมากๆ ค่ะ .. เช้านี้เลย ตอน 6 โมงเช้าค่ะ น่ากลัวมาก 😣 เกิดแถวๆ เส้นไปวังน้อย สระบุรี”

    พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. ผบก.ทล. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์   วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. นำตำรวจทางหลวงอยุธยาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เร่งติดตามคนขับรถบรรทุกพ่วงมาดำเนินคดี มีรายละเอียดดังนี้

   ต่อมา วันนี้(28 มี.ค.67) เวลาประมาณ 15.00 น. ได้เชิญตัว นายธนู ฯ อายุ 40 ปี และนางสุนทรี ฯ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง ทั้งสองคันที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าว มาพบพนักงานสอบสวน สภ. วังน้อย จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น” ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43(8) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
    ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเองได้ขับขี่รถบรรทุกลงมาจากถนนกาญจนาภิเษกตะวันออกมุ่งหน้าไปวังน้อย ระหว่างทางประมาณ 5 กม. ได้มีรถกระบะคันที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ มาขับคู่กัน บีบแตร และกระพริบไฟใส่ ทำให้ตนเองไม่พอใจ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ภายหลังจากนั้นได้จอดรถ และเรียกประกันภัย มาดูแลรถตู้ที่มีการเฉี่ยวชน พร้อมทั้งขอโทษที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ยอมรับว่าตนเองใจร้อน และคุมสติไม่อยู่ จึงทำให้เกิดอันตรายกับพี่น้องประชาชน ตนเองยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และขอสำนึกผิดในการกระทำนี้

   เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ไม่พบแต่อย่างใด จึงได้ดำเนินคดีเกี่ยวกับการขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น 

   ทั้งนี้ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนให้ใช้สติ และความระมัดระวังในการขับขี่รถ และควรตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้ทางร่วมกัน



You May Also Like